สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ได้ว่าจ้างมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ (IRDP) เป็นที่ปรึกษาเพื่อดำเนินโครงการผลักดันร่างพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 เนื่องจาก สคร. โดยกระทรวงการคลังในฐานะผู้รักษาการตามกฎหมายเล็งเห็นความสำคัญในการปรับปรุงพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 สาเหตุจากบทบัญญัติของพระราชบัญญัติดังกล่าวมีข้อจำกัดในด้านความชัดเจนของกฎหมาย การบังคับใช้ และไม่มีบทบัญญัติรองรับในกรณีการแก้ไขสัญญา ตลอดจนการต่อหรือขยายอายุสัญญา สคร. จึงได้จัดทำร่างกฎหมายใหม่ขึ้นใช้บังคับแทน โดยพระราชบัญญัติฉบับใหม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 3 เมษายน 2556
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 มีความครบถ้วน สมบูรณ์ และสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สคร. จึงเห็นควรให้มีการจัดจ้างที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในด้านของกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำร่างกฎหมายลำดับรองที่ใช้ประกอบกับกฎหมายหลัก เนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศในรูปแบบใหม่ที่ยังไม่มีการจัดทำมาก่อน และเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐทั้งหมด (ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์การมหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์ในการรองรับขั้นตอนการเสนอโครงการให้มีความครบถ้วนครอบคลุมเพียงพอเพื่อลดผลกระทบต่อโครงการในอนาคต และการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของที่ปรึกษา เนื่องจากพระราชบัญญัตินี้ได้เปิดโอกาสให้มีการจัดจ้างที่ปรึกษาได้ในหลายๆ ขั้นตอนของการเสนอและการจัดการโครงการ
IRDP ในฐานะที่ปรึกษาของ สคร. ได้ดำเนินงานตามขั้นตอนเพื่อสร้างผลสัมฤทธิ์ของงานที่ได้รับมอบหมาย โดยมีขั้นตอนการจัดทำกฎหมายลำดับรองดังนี้
1. ศึกษารวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยศึกษาจากกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่เดิม (พรบ. ร่วมการงาน 2535) บทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่นที่นำมาเทียบเคียงได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้อง
2. การจัดทำร่างกฎหมายร่างกฎหมายลำดับรองที่มีรูปแบบและเนื้อหาถูกต้องสอดคล้องกับมาตรฐานในการตรากฎหมายลำดับรองของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสอดคล้องกับบทบัญญัติของ พรบ. ร่วมลงทุน 2556 รายละเอียดคลิ้กที่นี่
3. การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอกชน เพื่อรับทราบผลกระทบ ข้อคิดเห็น ข้อเสนอ และข้อสังเกตในการปรับปรุงร่างกฎหมายลำดับรองดังกล่าว 4. การปรับปรุงร่างกฎหมายลำดับรองตามประเด็นที่ได้รับจากการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น
ทั้งนี้ IRDP จะนำเสนอกฎหมายลำดับรองที่จำเป็นต้องออกตามความในพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 จำนวน 7 ฉบับ เพื่อสนับสนุนให้ สคร. ประกาศใช้ต่อไป